เบต้า-แคโรทีน (β-carotene) เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ (VitaminA) เป็นสารที่ได้พบได้มากในพืชสีเหลืองส้มหรือเขียวเข้ม สารชนิดนี้เมื่อเรารับประทานเข้าไปจะถูกร่างกายนำไปสังเคราะห์เป็นวิตามินเอมีผลช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง แต่จากการทดลองวิตามินเอจากสัตว์ เช่น น้ำมันตับปลา พบว่าไม่ให้ผลในการรักษามะเร็ง ดังนั้นสารป้องกันมะเร็งที่แท้จริงคือเบต้า-แคโรทีนในพืชนั่นเอง มีรายงานการทดลองว่าคนที่รับประทานพืชผักที่มีเบต้า-แคทีนน้อยที่สุดจะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในปอดมากกว่าถึง 7 เท่าของคนที่รับประทานมากที่สุดในกลุ่ม
ประโยชน์ของบีตา-แคโรทีน (β-carotene)
- - ดูแลรักษาผิวพรรณ
- - ลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง ลดอนุมูลอิสระซึ่งมีผลเกี่ยวข้องกับมะเร็งเนื้อร้าย ทั้งยังพบว่าเบต้า-แคโรทีนให้ผลกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทาน ในร่างกายที่ชื่อ ที-เฮลเปอร์ให้ทำงานต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ให้ผลดีกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็ง
- - บำรุงสุขภาพของดวงตา เบต้า-แคโรทีนเมื่อโดนย่อยสลายที่ตับแล้วจะได้วิตามินเอ ซึ่งร่างกายนำไปใช้สร้างสารโรดอปซิน ในดวงตาส่วนเรตินา ทำให้ตามีความสามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนได้ และยังลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อ กระจกด้วย
- - ชะลอความแก่ เบต้า-แคโรทีนให้ผลในการลดความเสื่อมของเซลล์จากอนุมุลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกระบวนการแก่
แหล่งของเบต้า-แคโรทีน (β-carotene) พบได้มากในพืชสีเหลืองส้มหรือเขียวเข้ม เช่น แครอท ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน แตงโม หน่อไม้ฝรั่ง แคนตาลูป มะละกอสุก บรอกโคลี ผักบุ้ง มะระ ต้นหอม คะน้า ตำลึง เป็นต้น
ผลข้างเคียง
ขณะนี้ยังไม่พบรายงานผลข้างเคียงที่มีผลเสีย เป็นพิษจากเบต้า-แคโรทีน (β-carotene)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น